เชื่อว่าหลายคนชอบเด็กฝาแฝด ยิ่งระยะหลังมานี้ เราจะเห็นหลายบ้านมีลูกฝาแฝดกันเยอะขึ้น คุณพ่อคุณแม่หลายคนเลยมีความฝันที่อยากจะมีลูกแฝดเป็นของตัวเองบ้าง เพราะไหน ๆ ก็ท้องแล้ว ท้องครั้งเดียว แต่ได้ลูกน้อยน่ารักถึง 2 คน แต่ก่อนที่จะไปทราบถึงวิธีการที่จะทำให้มีลูกแฝดอย่างที่หวังมีวิธีไหนบ้าง เรามาทำความรู้จากเกี่ยวกับครรภ์แฝดกันก่อนดีกว่าค่ะ
ชนิดของครรภ์แฝด มีอะไรบ้าง
- แฝดแท้ เกิดจากไข่ 1 ใบ ได้รับการผสมตามกระบวนการตามธรรมชาติ แล้วแบ่งตัวออกเป็น 2 จึงมีหน้าตาและเพศเหมือนกัน เช่น ชาย ชาย ,หญิง หญิง หรือถ้าหากไข่แบ่งตัวช้าเกินไป ก็อาจจะทำให้เด็กมีร่างกายบางส่วนติดกัน เช่น แฝดสยามอินจัน
- แฝดเทียม เกิดจากไข่ 2 ใบหรือมากกว่า อาจเกิดทั้งจากการผสมตามธรรมชาติ หรือ การใช้เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ ซึ่งเด็กแฝดที่เกิดจากไข่คนละใบ อาจจะมีหน้าตาเหมือนกัน หรือไม่เหมือนกันก็ได้ ส่วนใหญ่จะหน้าตาคล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกันเป๊ะ และอาจจะมีโอกาสเป็นคนละเพศกัน เช่น แฝดชาย หญิง และจะไม่มีโอกาสที่จะมีร่างกายบางส่วนติดกันหรือมีการใช้อวัยวะร่วมกัน เนื่องจากเกิดจากไข่คนละใบ
ซึ่งการตั้งครรภ์แฝดแท้นั้นถือว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากกว่าการตั้งครรภ์แฝดเทียม เพราะแฝดแท้นั้นเกิดจากการที่ตัวอ่อนมีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนขึ้นมากกว่า 1 ภายหลังจากที่ตัวอ่อนได้ฝังตัวอยู่ในโพรงมดลูกแล้ว หากการแบ่งตัวนั้นเกิดขึ้นเร็ว ตัวอ่อนก็สามารถแยกจากกันได้อย่างสมบูรณ์ มีถุงน้ำคร่ำอยู่คนละถุงแยกออกจากกัน โอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนต่อทารกจึงมีน้อยลง แต่หากเกิดการแบ่งตัวล่าช้า แม้ว่าตัวอ่อนจะแบ่งตัวออกจากกันได้อย่างสมบูรณ์ก็ตาม แต่ก็อาจจะต้องมาอาศัยอยู่ภายในถุงน้ำคร่ำถุงเดียวกัน จึงมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างรุนแรง (เช่น สายสะดือพันกันจนทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิต) หรือในกรณีที่มีการแบ่งตัวล่าช้ามากจนเกินไปก็จะทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ทารกจึงมีร่างกายบางส่วนติดกัน
หลังจากที่ทราบกันแล้วนะคะว่าชนิดของครรภ์แฝดมีอะไรบ้าง ก็มาถึงวิธีการสำหรับครอบครัวที่อยากมีลูกแฝดกันแล้ว ซึ่งการมีลูกแฝดตามวิธีธรรมชาติอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์เข้ามาช่วย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีโอกาสและมีความเป็นไปได้ในการตั้งครรภ์แฝดมากที่สุดค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 วิธีใหญ่ ๆ คือ
- ฉีดเชื้อ วิธีนี้คุณหมอจะให้ทานยากระตุ้นไข่ เพื่อให้มีไข่โต กรณีที่มีไข่โต 2 ใบ หากฉีดเชื้อก็มีโอกาสติดแฝดได้ค่ะ แต่โอกาสสำหรับวิธีนี้ไม่มากเท่าไหร่นะคะ เนื่องจากยังเป็นการปฏิสนธิตามธรรมชาติ
- เด็กหลอดแก้ว IVF+ICSI วิธีนี้มีโอกาสได้ลูกแฝดมากที่สุด เพราะเป็นการเลี้ยงตัวอ่อนถึงระยะ 5 วัน โดยคุณหมอจะทำการประเมินคุณแม่ตลอดเวลา หากใครอยากได้ลูกแฝด สามารถปรึกษาคุณหมอได้นะคะ โดยคุณหมอจะช่วยพิจารณาถึงความเหมาะสมในคนไข้แต่ละรายไป ซึ่งหากใส่ตัวอ่อน 2 ตัวก็มีโอกาสติดแฝดได้ค่ะ
แต่การตั้งครรภ์แฝด ก็มีความเสี่ยง เนื่องจากเป็นการตั้งครรภ์แบบพิเศษ เสี่ยงต่อการเกิดครรภ์เป็นพิษ และเป็นอันตราย ลองมาดูกันนะคะว่า ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกรณีตั้งครรภ์แฝดมีอะไรบ้าง ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากอัครบุตร ขอแบ่งออกเป็นความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับทารกและคุณแม่นะคะ
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับทารก
- เกิดความผิดปกติทางโครงสร้างร่างกายทารกพัฒนาไปอย่างไม่ปกติจากการเบียด กดทับกัน ทำให้เกิดโรคพิการแต่กำเนิด
- ภาวะทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า (IUGR)
- ทารกมีการถ่ายเทเลือดให้กัน ในครรภ์แฝดแท้นั้นมีความเป็นไปได้ที่หลอดเลือดในรกจะเชื่อมระบบไหลเวียนโลหิตของทารกเข้าด้วยกัน ทำให้ทารกคนหนึ่งเสียเลือดจนตัวเล็กลงและเกิดภาวะโลหิตจาง ในขณะที่อีกคนที่ได้รับเลือดมากเกินอาจเกิดหัวใจวายได้
- ทารกเสียชีวิตในครรภ์
- ทารกที่คลอดก่อนกำหนดอาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิตหลังจากคลอดหรือเกิดโรคระยะยาว เช่นโรคปอดเรื้อรัง กระจกตาเสื่อม
- สายสะดือรกพันกัน พบได้ไม่บ่อยและส่วนใหญ่จะเกิดกับทารกแฝดที่อยู่ในถุงตั้งครรภ์เดียวกัน
- ภาวะแทรกซ้อนบางอย่างอาจไม่ได้เกิดขึ้นขณะอยู่ในครรภ์หรือเห็นได้ทันทีเมื่อหลังคลอด แต่ไปปรากฏในภายหลัง เช่น ปัญหาด้านการพูดและสื่อสาร การพัฒนาทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็ก
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับคุณแม่
- มีโอกาสแท้งบุตรมากขึ้น
- มารดาจะมีภาวะขาดธาตุเหล็ก ขาดสารอาหารมากขึ้น เนื่องจากทารกมีการนำสารอาหารในร่างกายไปใช้มากกว่าปกติ
- มีโอกาสเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษมากกว่าปกติ
- มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์เพิ่มมากขึ้น
- คลอดก่อนกำหนด
- น้ำหนักตัวของทารกในครรภ์น้อยกว่าปกติ
- ภาวะรกเกาะต่ำ มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดมากขึ้น
- โอกาสผ่าตัดคลอดบุตรมากขึ้น จากท่าหรือส่วนนำของทารกที่ไม่ปกติ
- ทารกเจริญเติบโตไม่เท่ากัน มีการแย่งอาหารกัน
- สายสะดือพันกัน ทำให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์
- ภาวะตกเลือดหลังคลอดมากขึ้น เนื่องจากตอนตั้งครรภ์มีการขยายตัวของมดลูกมากกว่าปกติ ทำให้หลังคลอดมดลูกหดตัวได้ไม่ดี
- ปวดเมื่อยหลัง / เอว / เข่า
- ริดสีดวงทวารหนัก
- ผิวแตกมาก
- มีน้ำหนักเกินมากต่อเนื่องหลังคลอด
เพราะฉะนั้นหากใครที่ต้องการมีลูกแฝด ควรปรึกษาคุณหมอตั้งแต่แรก และเมื่อตั้งครรภ์แล้วก็ควรได้รับการดูแลจากคุณหมออย่างใกล้ชิด ตลอดการตั้งครรภ์ค่ะ
หากมีข้อสงสัย เกี่ยวการตั้งครรภ์ อยากมีลูก หรือปัญหาเกี่ยวกับภาวะมีลูกยาก
สอบถามสิ่งที่คุณสงสัย หรือต้องการได้คำตอบ ได้ผ่านช่องทาง Line ได้เลย
หรือสามารถตรวจเช็คตารางแพทย์ออกตรวจ
เพื่อขอเข้ารับคำปรึกษาได้เลยค่ะ
มีลูกยาก อยากมีลูก ไว้ใจศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากอัครบุตร
โดย รศ.นพ.เรืองศิลป์ เชาวรัตน์ และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ